สิ่งที่ทำให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ปัจจุบันนี้ยังไม่รู้จักต้นสายปลายเหตุที่เด่นชัดของโรคนี้ มั่นใจว่ามีสาเหตุมาจากหลายต้นสายปลายเหตุด้วยกัน มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทาน (immunological factors) ทางพันธุกรรม คนเจ็บที่เป็นโรคนี้มักมีบิดามารดาหรือพี่น้องสนิทสนมเป็นโรคในกรุ๊ปภูมิแพ้ เป็นต้นว่า โรคหอบหืด แพ้อากาศ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังร่วมด้วย

ผิวหนังของคนเจ็บจะอักเสบ แห้ง แดง ผิวหน้าเป็นผื่นคันจากความแตกต่างจากปกติของการผลิตเซลล์ผิวหนัง (skin barrier dysfunction) ไขมันระหว่างเซลล์ (intercellular lipid) และก็ความไม่ปกติของการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ (tight junction) ในชั้นผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวไวต่อสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น เหงื่อ ความร้อน ความเย็น สารเคมีที่เคืองต่างๆเชื้อโรค รวมทั้งทำให้มีการสนองตอบที่ไม่ดีเหมือนปกติของระบบภูมิต้านทานของร่างกาย กำเนิดกรรมวิธีการอักเสบของผิวหนังมากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบเสิบสาน

โรคเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น

อากาศร้อนหรือหนาวเหลือเกิน ผิวหนังจะแห้งในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นแล้วก็อาบน้ำอุ่น ในช่วงฤดูร้อนมีเหงื่อไหลไคลย้อยมากมายบางทีอาจกระตุ้นให้ผื่นเห่อคัน

การดูแลรักษาผิวไม่เหมาะสม อาทิเช่น อาบน้ำร้อน อาบน้ำหลายครั้ง อาบน้ำนานเหลือเกิน การระคายเคืองผิวด้วยอุปกรณ์ที่ใช้เช็ดตัว ตัวอย่างเช่น ผ้าหรือฟองน้ำขัดผิว รวมทั้งการใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดที่ร้ายแรงเกินความจำเป็นจะมีผลให้ผิวแห้งเยอะขึ้น

การรับเชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อราเข้าแทรกบนผื่นผิวหนังที่อักเสบอยู่เดิมจะมีผลให้ผื่นกำเริบเสิบสานมากขึ้นเรื่อยๆ

สารเคมีหรือสารระคายผิว ยกตัวอย่างเช่น น้ำลาย ผงซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำหอม ยากันบูด

ในผู้เจ็บป่วยบางรายเมื่อทานอาหารบางประเภท ตัวอย่างเช่น นมวัว สินค้าจากนมวัว ไข่ แป้งมี่ อาหารทะเล ถั่วฯลฯ สามารถกระตุ้นให้ผื่นกำเริบเสิบสานได้

สารก่อการเคืองที่อยู่กลางอากาศ เป็นต้นว่า ไรฝุ่นผง ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ซึ่งพบได้มากว่าผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะอาการของระบบฟุตบาทหายใจร่วมด้วย

ความเคลื่อนไหวทางอารมณ์ เป็นต้นว่า ความตึงเครียด ความรู้สึกกลุ้มใจ

หน้าที่ของเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนังกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

จากรายงานการทบทวน Systematic Review พบว่า มีการลดน้อยลงของความมากมายของเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนังของคนเจ็บที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาทิเช่น เชื้อยีสต์ (Malassezia species) รวมทั้งแบคทีเรียบางจำพวก มีความมากมายหลายของเชื้อจุลินทรีย์น้อยลงเยอะที่สุดที่รอบๆผื่นผิวหนังที่มีการอักเสบ แต่พบว่ามีเชื้อแบคทีเรียก่อโรคจำพวก Staphylococcus aureus แล้วก็ Staphylococcus epidermidis มากขึ้นเรื่อยๆ

จากการทดลองในสัตว์ทดสอบพบว่า ความไม่พอดีของเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนังเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบเสิบสาน

ในงานศึกษาค้นคว้าวิจัยหลายงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย พบว่า เมื่อมีการทาสารให้ความชื้นผิวหนังในคนเจ็บที่มีผื่นกำเริบเสิบสาน จะก่อให้ผิวหนังแข็งแรงบริบูรณ์ขึ้น นำมาซึ่งการทำให้ปริมาณรวมทั้งจำพวกของเชื้อแบคทีเรียก่อโรคน้อยลง มีความสมดุลและก็มีความมากมายหลากหลายของเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนังเยอะขึ้นเรื่อยๆกระทั่งเกือบจะใกล้เคียงกับในคนผิวธรรมดาที่มิได้เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

การวิเคราะห์โรค

การวิเคราะห์โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอาศัยประวัติความเป็นมาที่คนป่วยมีลักษณะหน้าเป็นผื่น คัน ผิวหนังอักเสบเป็นๆหายๆติดต่อกันนาน ในรอบๆที่ไม่เหมือนกันตามวัยของผู้เจ็บป่วย

การดูแลรักษา

การรักษาโรคสามารถทำเป็นโดย

การหลีกเลี่ยงเหตุต่างๆที่ทำให้ผื่นกำเริบเสิบสานเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ผู้ดูแลควรจะดูแลผิวรากฐาน ดังต่อไปนี้

ไม่สมควรอาบน้ำเสมอๆไม่สมควรใช้น้ำที่อุ่นหรือร้อนกระทั่งเหลือเกิน และไม่ขัดผิวแรงๆขณะอาบน้ำ

เลือกใช้สบู่อ่อนๆที่เหมาะสมกับ ผิวแพ้ง่าย ไม่สมควรถูสบู่บ่อยเกินไป ไม่สมควรใช้สบู่ที่มีความเป็นกรดหรือด่างร้ายแรง

เลือกใช้เสื้อผ้าเนื้อนุ่ม โปร่ง สวมใส่สบาย ระบายความร้อนก้าวหน้า ไม่สมควรสวมเสื้อขนสัตว์ ผ้าเนื้อดกหยาบคายจนถึงเกินความจำเป็น เพื่อลดการอับเหงื่อที่ก่อให้เกิดอาการคันรวมทั้งระคาย lucabet

ในเด็กอ่อนที่มีประวัติครอบครัวที่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ควรจะเสนอแนะให้ดื่มนมแม่ เพื่อหลบหลีกการแพ้นมวัว ไม่รับประทานของกินที่รู้แจ้งชัดว่าทำให้ผื่นกำเริบเสิบสาน

ควรจะดูแลผิวหนังให้มีความชื้นอยู่เป็นประจำ ทาข้างหลังอาบน้ำโดยทันที ขั้นต่ำวันละ 2 ครั้ง โดยเลือกสารให้ความชื้นผิวหนังจำพวกที่สุภาพ ไม่มีน้ำหอม เหมาะสมกับผิวคนเจ็บ

ป้ายยาลดอาการอักเสบ

3.1 ยาใช้ภายนอกสเตียรอยด์ ใช้ทาเฉพาะตำแหน่งที่มีผื่นแดงอักเสบ เมื่ออาการดีขึ้นกว่าเดิมแล้วควรจะหยุด และก็ควรจะอยู่ สำหรับเพื่อการดูแลของหมอเพียงแค่นั้น

3.2 ยาใช้ภายนอกกรุ๊ป Topical Calcineurin Inhibitor (TCI) อย่างเช่น tacrolimus รวมทั้ง pimecrolimus ออกฤทธิ์ ต้านทานการอักเสบเหมือนยาใช้ภายนอกกรุ๊ปสเตียรอยด์ ชี้แนะให้ขอความเห็นหมอก่อนใช้ยา

ในรายที่มีการติดโรคแบคทีเรียแทรกเป็นตุ่มหนอง หรือน้ำเหลืองซึม ควรจะขอความเห็นหมอเพื่อการดูแล ชี้แนะแนวทางการทำความสะอาดแผล บางทีอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะจำพวกทาหรือรับประทานร่วมด้วย

ยาต้านทานฮีสตามีนจำพวกที่ทำให้มีการเกิดอาการง่วง จะช่วยลดอาการคัน เพราะเหตุว่าการเกาจะมีผลให้ผื่นเป็นมากขึ้นหรือกำเนิดแผลถลอกปอกเปิก รวมทั้งอาจมีการรับเชื้อแบคทีเรียเข้าแทรกตามมาได้