ReadyPlanet.com


เบื้องหลังการผลิตนาฬิกา PATEK PHILIPPE



 Patek Philippe คือหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาชื่อที่บ่งบอกถึงสถานะทางสังคม การอนุรักษ์คุณค่าแห่งงานศาสตร์และศิลป์ชั้นสูง การประมูลที่สร้างมูลค่าได้สูง การรักษาระดับราคาได้ยอดเยี่ยม และยังเป็นนาฬิกาในแบบดั้งเดิมที่ทรงคุณค่าที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก เบื้องหลังการผลิตนาฬิกา Patek Philippe ที่มีเพียง45,000 เรือนต่อปี ทุกเรือนคือผลงานศิลป์ชั้นเลิศที่สร้างสรรค์ด้วยความประณีตสูงสุด

    คาดว่าปีนี้น่าจะมีงานใหญ่สำหรับแบรนด์ Patek Philippe ที่มีอายุครบ 180 ปีพอดี นับจากก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1839 โดย Antoine Norbert de Patek(อองตวน นอร์เบิร์ต เดอ ปาเต็ก) นักออกแบบที่มีความสามารถด้านการตลาด และ Adrien Philippe(เอเดรียน ฟิลิปป์) นักประดิษฐ์นาฬิกาที่เป็นเทพด้านวิศวกรรมกลไกขนาดเล็ก ไม่ต้องบอกก็น่าจะพอเดาได้ว่าชื่อแบรนด์มาจากนามสกุลของ 2 ผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นเหมือนประเพณีนิยมในยุคนั้น รวมถึงยุคนี้ที่นำชื่อของ

ผู้สร้างมาเป็นชื่อแบรนด์นั่นเอง ทั้งคู่สร้างร่วมกันพลิกวงการนาฬิกาโลกด้วยการปลดล็อกการใช้กุญแจในการขึ้นลานด้วยระบบ Keyless stem-winding systemทำให้การใช้งานนาฬิกาพกไม่ยุ่งยากและ สะดวกยิ่งขึ้นเพราะไม่ต้องห่วงกุญแจหายและไม่ต้องกังวลว่าฝุ่นจะเข้าไปในเครื่อง ระบบนี้ถูกพัฒนามาเป็นเม็ดมะยมที่ใช้ในการไขลานนาฬิกาทุกประเภท รวมทั้งนาฬิกาข้อมือต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้

     แม้ว่า Patek Philippe จะถูกเปลี่ยนโอนเจ้าของมาอยู่ภายใต้การดูแลโดยครอบครัว Stern (สเติร์น)ตั้งแต่ปี 1932 มาจนถึงปัจจุบัน แต่ความเป็นแบรนด์ที่ทรงคุณค่าก็ไม่เคยจางหาย หากนับวันคุณค่าของนาฬิกาภายใต้แบรนด์นี้จะเป็นที่ต้องการของนักสะสมนาฬิกา รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในแง่ของการลงทุน ซึ่ง Patek Philippe เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนต์ของโลกที่ทรงพลังในเรื่องของราคาอย่างเห็นได้ซัด ไม่เฉพาะราคานาฬิกาใหม่ที่ขยับขึ้นทุกปี แต่ยังรวมถึงราคาของนาฬิกาวินเทจหรือมือสองที่หลายเรือนมีราคาสูงขึ้นกว่าราคาป้าย โดยเฉพาะในการประมูลใหญ่ๆ ชื่อ Patek Philippe มักจะอยู่ในอันดับต้นๆของนาฬิกาที่ทำราคาประมูลได้น่าสนใจ

     เหตุผลสำคัญมาจากชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ รวมทั้งการผลิตนาฬิกาที่เปี่ยมความประณีตและสูงด้วยคุณภาพ ว่ากันว่า ปริมาณนาฬิกาที่ผลิตได้ราว 45,000 เรือนในแต่ละปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นผลงานยอดนิยมไม่ว่าจะเป็น Nautilus หรือ Twenty~4@ ในขณะที่นาฬิการะดับคอมพลิเคชั่นและ แกรนด์ คอมพลิเคชั่นซึ่งมีความชับซ้อนสูง จำนวนผลิตแม้ไม่จำกัด แต่ก็ผลิตต่อปีน้อยมาก อยากได้ต้องเข้าคิวจอง และถ้าไม่ใช่ลูกค้าของแบรนด์อยู่แล้ว คิวจองบางครั้งก็ยากพอสมควร หลายปัจจัยที่ทำให้นาฬิกา Patek Philippeทรงคุณค่าและเป็นที่ต้องการของนักสะสม หนึ่งในนั้นคือความยอดเยี่ยมของงานผลิตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกสรรวัตถุดิบเริ่มต้นไปจนถึงนาฬิกาเรือนสำเร็จ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์แม้ว่าจะผลิตนาฬิกาเพียง 45,000 เรือน แต่โรงงานของ Patek Philippe ยิ่งใหญ่และมีอยู่ในหลายพื้นที่ส่วนสำนักงานใหญ่ที่มีห้องปฏิบัติการหลัก อยู่ในPlan-Les-Ouates (ปลอง เลส์ โอตส์) ในกรุงเจนีวาที่เพิ่งขยายพื้นที่รองรับส่วนการผลิตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันรวมแผนกต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันหลายแผนกและเป็นโรงงานหลักที่เราได้มีโอกาสเข้าชมกันภายในนอกจากนี้ก็ยังมีโรงงานผลิตตัวเรือนและสายอยู่ในPerly (แปร์ลี) ไม่ได้หมดเพียงแค่นี้ Patek Philippeยังเป็นเจ้าของบริษัทพันธมิตรอีก 8 แห่งนอกเขตเจนีวาเช่น Calame (คาเลม) โรงงานผลิตตัวเรือน, Poli-Art(โพลี-อาร์ต ) โรงงานขัดแต่ง และ SHG โรงงานประดับอัญมณี รวมถึง Patek Philippe SA ใน La Chaux-de-Fonds (ลาโชซ์-เดอ-ฟองต์ส) โรงงาน CadransFluckiger (คาครังส ฟลุกคิเกอร์) โรงงานผลิตหน้าปัดที่อยู่ใน Saint-Imier (แซงต์-เอเมียร์) โรงงานAllaine (อัลเลน) ใน Alle (อัลล์) ที่ประกอบกลไกเข้ากับตัว และ Betakron (เบตากรอน) โรงงานขัดแต่งตกแต่งขึ้นส่วนสติ๊ลที่อยู่ในเขตจูร่า และยังมีโรงงานPatek Philippe La Vallee SA ที่อยู่ใน Le Brassus(เลอ บราซุส) สำหรับงานประดิษฐ์นาฬิกา เครื่องบอกเวลาชั้นสูงและงานซ่อมบำรุงต่างๆ

     นี่คืออาณาจักรของ Patek Philippe ที่เห็นว่ายิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้วอาจสงสัยว่า ทำไมถึงผลิตนาฬิกาออกมาเพียงปีละ 45,000 เรือน เหตุผลก็คือ ผลงานทุกชิ้นของ Patek Philippe เต็มไปด้วยความละเอียดละเมียดและใช้เวลาผลิตนานมาก นาฬิกาแต่ละเรือนได้รับการประกอบ ขัดเงา และตั้งเวลาด้วยมือของช่างผู้ชำนาญงาน ผ่านขั้นตอนกว่า 1,200 ขั้น ใช้เวลากว่า600 ชั่วโมงในการตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ และอีก 30 วันในการสังเกตการณ์และตรวจสอบอย่างเคร่งครัด นั่นสำหรับผลงานคอลเลคชั่นปกติ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ขับซ้อนมากๆโดยเฉพาะนาฬิกาในกลุ่ม Grand Complication ความซับซ้อนเหนือระดับ ตัวอย่างเช่น Patek Philippe Grandmaster Chime Ref.5175นาฬิกาข้อมือกลไกที่ซับซ้อนที่สุดในโลก ใช้เวลาในการผลิตกันเป็นปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ที่สำคัญกว่านั้นPatek Philippe ไม่ได้เน้นการขายนาฬิกาในปริมาณมาก แต่สร้างคุณค่าด้วยการผลิตในปริมาณจำกัดเพื่อให้นักสะสมและผู้ที่ต้องการครอบครองจริงๆ ได้เป็นเจ้าของ โดยส่งต่อถึงลูกหลานได้ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและบริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้าตลอดไม่แปลกเลยที่ผู้ซื้อนาฬิกา Patek Philippe อย่างถูกต้องจะอยู่ในลิสต์รายชื่อของแบรนด์ ซึ่งจะมีสิทธิ์พิเศษต่างๆ ทั้งการรับเชิญเข้าร่วมงานหรือสั่งซื้อนาฬิการุ่นพิเศษที่ส่วนใหญ่จะมีคิวจองยาวมาก

     โรงงานแห่งแรกของ Patek Philippe อยู่ในกรุงเจนีวามาตั้งแต่เริ่มต้นแบรนด์ในปี 1839 แต่ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ของบูติกเรือธงที่รู้จักกันในชื่อ PatekPhilippe Salon Geneva หนึ่งใน 3 บูติกสำคัญของแบรนด์ ที่งดงามหรูหราและสมบูรณ์แบบที่สุด แต่การย้ายโรงงานมาอยู่ที่ Plan-Les-Ouates เริ่มต้นจากครอบครัวสเติร์นซื้อคฤหาสถ์ Chateau Blanc(ชาโต บลอง) เพื่อเป็นบ้านพักผ่อนส่วนตัว จากนั้นในปี 1996 ก็ขยายพื้นที่เพิ่มและสร้างอาคารทันสมัยเพื่อเป็นสำนักงานใหญ่ รวมถึงแผนกปฏิบัติการของงานประดิษฐ์นาฬิกาบางส่วน ในปี 2007 Patek Philippeลงทุนปรับพื้นที่กว่า 33,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวตามการเติบโตของแบรนด์ และปี 2009ได้ย้ายส่วนการผลิตชิ้นส่วนและการประกอบชิ้นส่วนมาไว้ใต้หลังคาเดียวกัน

     ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Patek Philippe มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2015 แบรนด์ทุ่มงบประมาณอีกกว่า 450 ล้านสวิสฟรังก์ หรือราว 1.5 ล้านบาท ขยายพื้นที่เพิ่ม และวางแผนจะนำหลายๆ แผนกที่กระจายอยู่ในเมืองต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งปัจจุบันนี้ พื้นที่ในเขตPlan-Les-Ouates รวมแผนกต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการวิจัยพัฒนาสู่เทคโนโลยีใหม่ ฝ่ายพัฒนากลไกใหม่แผนกสร้างสรรค์ ส่วนปฏิบัติการในการผลิตชิ้นส่วนกลไก รวมถึงแผนกลไกซับซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตนาฬิกากลไกโครโนกราฟ กลไกทูร์บิญองหรือระบบตีบอกเวลาทั้ง Repeater หรือ Sonnerie และส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์นาฬิกา ทั้งงานออกแบบไปจนถึงการจัดส่ง งานบริการด้านการขายและงานซ่อมแซมนาฬิกาทั้งใหม่และนาฬิกาวินเทจจากอดีต ที่นี่คือที่ที่เรามาชมเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานนาฬิกาที่ครองใจนักสะสมทั่วโลก

     ด้านหน้าอาคารหลักโดดเด่นด้วยประติมากรรมเหล็ก Le Spiral ที่ได้แนวคิดมาจากสปริงสายใย ชิ้นชื่ออย่าง คาลิเบอร์ 89 นาฬิกาพกที่มีความซับซ้อนสูงสุดจาก 33 ฟังก์ชันการทำงาน 24 เข็มแสดงค่าและประกอบด้วยชิ้นส่วนกลไกมากถึง 1,728 ขึ้น มันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินอยู่เบื้องหน้าชุดกลไกอัศจรรย์เช่นนี้ และเมื่อหันมาดูผนังอีกด้านก็ยังมีงานประติมากรรมนาฬิกาติดผนังที่สร้างสรรค์โดย JeanKazes ดูซับซ้อนและสวยงามอย่างยิ่ง

     ก่อนจะผ่านส่วนรับรองเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ทุกคนต้องเปลี่ยนไปสวมชุดสีชาวของช่างนาฬิกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานความสะอาด ไม่ให้มีฝุ่นจากภายนอกเข้าไปถึงแผนกต่างๆ ภายใน และทำให้ดูมีส่วนสำคัญของนาฬิกาจักรกล ประติมากรรมที่สูงเท่าตึก 4 ชั้น ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์นักประดิษฐ์นาฬิกาที่คิดค้นพัฒนาชิ้นส่วนกลไกสำคัญมากมายมาตลอดระยะเวลา 180 ปี ในขณะที่พื้นที่ด้านหน้าก็เพิ่งมีอาคารแห่งใหม่ที่เป็นตึก 6 ชั้นและชั้นใต้ดินอีก 4 ชั้น มีพื้นที่รวมกว่า 50,000 ตารางเมตร เพิ่งแล้วเสร็จไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยจะเป็นพื้นที่สำหรับการฝึกอบรมต่างๆ ของ Patek Philippe ที่พร้อมรองรับการเติบโตของแบรนด์ไปอีก 20 ปีข้างหน้าเลยทีเดียวฉะนั้น เมื่อมีข่าวลือที่ว่า ครอบครัวสเติร์นจะขายธุรกิจในช่วงไม่กี่เดือนก่อน จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดูจากความมุ่งมั่นในการขยายตัวและพัฒนาอย่างเต็มที ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ก็ออกมาปฏิเสธชัดเจนแล้วว่า Patek Philippe จะเป็นของครอบครัวสเติร์นต่อไปอีกนาน

 


ทดลองเล่นสล็อตฟรี

 

 

 

     จากด้านหน้าเข้าสู่ห้องรับรองแรกที่กว้างขวางและโอ่โถง ซึ่งสะท้อนความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็นผนังที่ประดับด้วยลายแกะสลักของชิ้นส่วนกลไกขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ซึ่งจำลองมาจากกลไกเลื่องระเบียบเรียบร้อยในการชมพื้นที่ด้วย แผนกแรกที่เข้าชมคือการผลิตชิ้นส่วนกลไกขนาดเล็กที่เป็นพื้นฐานของกลไกทั่วไป ทั้งเฟือง จักร เกียร์ และน็อตขนาดต่างๆหลายคนอาจคิดว่าชิ้นส่วนสำคัญสุดของกลไกนาฬิกาน่าจะเป็นแท่นเครื่องหรือชุดจักรกลอกที่มีสปริงสายใยต่างๆ แต่ถ้าไม่มีเฟือง จักรหรือเกียร์ขึ้นเล็กๆ รวมไปถึงน็อตหลากขนาด ก็คงประกอบกลไกให้สำเร็จไม่ได้

     แม้จะเป็นชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็ก แต่ทุกชิ้นได้รับการผลิตขึ้นด้วยความประณีตสูงสุด ใช่ครับ ความประณีตสูงสุดจริงๆ เพราะ Patek Philippe ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับองค์ประกอบเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น เฟืองหรือจักรขนาดต่างๆ ต้องผ่านขั้นตอนของกระบวนการผลิตมากถึง 30-40 ขั้นตอนเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ใช้เครื่องจักรในการตัดวัตถุดิบเริ่มต้นให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ และนำไปผ่านการทำความสะอาด ขัดแต่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งด้วยเครื่องจักรและขัดแต่งด้วยฝีมือของช่างจากอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้แนใจว่าพื้นผิวของชิ้นส่วนทุกชิ้นมีเหลี่ยมมุมที่ถูกต้อง มีมิติที่สวยงามประณีตอย่างที่ต้องการ และมีความสมบูรณ์แบบสูงสุด ซึ่งผู้ที่สามารถทำงานในส่วนนี้ได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3ปีในการฝึกฝน เพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้มากพอที่จะรับรู้ถึงความรู้สึกบนพื้นผิวของโลหะ ผ่านการขัดกลึงด้วยเครื่องและไม้ขัดเงาประเภทต่างๆ จนได้รูปแบบที่ต้องการ นอกจากจะต้องมีสมาธิสูง มีสายตาดี และต้องมีเซนส์ในการรับรู้ที่แม่นยำด้วย เพราะแต่ละวันไม่ได้ทำแค่ขึ้นเดียว แต่จำนวนชิ้นส่วนนับร้อยนับพันที่อยู่ภายในกล่อง รอการขัดแต่งเพื่อนำไปใช้ประกอบกลไกต่อนั่นเอง เฉพาะเฟื้องหรือจักรที่ใช้ในกลไกแต่ละชุดก็มีจำนวนนับสิบแล้ว อย่างกลไกอัตโนมัติธรรมตาใช้จักรและเฟืองราว 25 ชิ้น แต่ละชิ้นมีขนาดและรูปแบบแตกต่างกันด้วย แต่ถ้าเป็นกลไกซับซ้อนอย่างโครโนกราฟจับเวลาต้องใช้เฟืองมากกว่า 40 ชิ้นที่แตกต่างกัน ถามว่า มีรูปแบบหรือประเภทของเฟืองและจักรมากเท่าไรที่โรงงานผลิตขึ้น ผู้นำชมบอกว่า Patek Philippe ผลิตเฟือง จักรและน็อตเล็ก แตกต่างกันถึง 400 แบบ ซึ่งทุกการผลิตย้ำว่าต้องละเอียด รอบคอบและวางแผนเป็นอย่างดี ให้การทำงานทุกขั้นตอนประสานกันเป็นหนึ่งราวกับวงดนตรีออสเตรตร้า

     แม้เราจะเห็นเครื่องจักรจำนวนมากในโรงงาน แต่สำหรับ Patek Philippe แล้ว เครื่องจักรทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ช่วยของคน มากกว่าที่จะเป็นหัวใจหลักของการทำงาน ในอดีตที่ผ่านมา การผลิตชิ้นส่วนกูลไกทำด้วยมือตั้งแต่ตัดชิ้นส่วนจนถึงขั้นการขัดแต่งและประกอบสำเร็จ แต่ปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าจนถึงจุดที่เครื่องจักรสามารถทำงานบางอย่างได้ดีกว่ามือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความแม่นยำในการตัด หรือการกำหนดตำแหน่งการวางชิ้นส่วน เป็นต้น แต่ถ้าเป็นงานขัดแต่งชั้นสูง หรือการประกอบชิ้นส่วนกลไกต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะกลไกชับซ้อนสูง ล้วนต้องใช้ฝีมือของคนในการทำงานทั้งสิ้น เพราะงานเหล่านี้ต้องใช้ความชำนาญ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง ดังนั้น Patek Philippe แม้จะยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม แต่ก็ไม่ปฏิเสธความทันสมัยของเทคโนโลยี หากงานไหนที่คนทำได้ดีกว่า ก็อยากให้คนทำมากกว่าที่จะเป็นเครื่องจักร อีกทั้งบางประเภทงานเช่น การขัดแต่งและงานแกะลาย การใช้เครื่องจักรจะทำให้ดูสมบูรณ์เกินไปจนขาดความเป็นศิลปะ ดังนั้นแบรนด์จึงเลือกที่ใช้ให้ช่างเป็นผู้รังสรรค์ความงามที่น่าอัศจรรย์ราวกับมีชีวิต ด้วยเนื้องานที่แฝงความศิลปะไว้นั่นเอง

     นอกจากชิ้นส่วนขนาดเล็กที่พิถีพิถันในการผลิตแล้ว ชิ้นส่วนใหญ่ๆ อย่าง แท่นเครื่องของชุดกลไกที่เป็นฐานสำหรับการวางชิ้นส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ก็ยิ่งมีความพิถีพิถันมาก เพราะแต่ละแท่นเครื่องต้องผ่านการคำนวณอย่างแม่นยำถึงตำแหน่งในการวางชิ้นส่วนอื่นๆ ลงไป ความผิดพลาดแม้แต่เสี้ยวของมิลลิเมตรก็อาจทำให้กลไกทำงานผิดพลาดได้ ในขั้นตอนของการผลิตใช้เครื่องจักรในการตัดและสร้างแบบแผนบนแท่นเครื่อง แต่มาถึงส่วนของงานขัดแต่งไม่ว่าจะเป็นลายกิโยเซ่หรือลานริ้วมาตรฐานของเจนีวา ล้วนเป็นความชำนาญของช่างฝีมือทั้งสิ้น แต่ละลายสะท้อนความแม่นยำและน้ำหนักที่พอเหมาะ ให้ริ้วลายสวยงามและมีระเบียบ

     ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ผ่านการผลิตจะถูกส่งมายังส่วนของ Pre-Assembling เพื่อประกอบในขั้นตอน แต่ก่อนจะประกอบขึ้นส่วนด้วย ทุกชิ้นก็ต้องผ่านการตรวจสอบช้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุด ถ้าชิ้นส่วนไหนไม่ผ่านมาตรฐานก็จะถูกส่งกลับไปทำใหม่ หลังจากประกอบขั้นต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประกอบกลไกสมบูรณ์แบบทั้งกลไกไขลานและอัตโนมัติ อีกส่วนจะถูกส่งไปยังห้องประกอบกลไกซับซ้อน ที่มีห้องทำงานแยกชัดเจน โดยแบ่งเป็นห้องๆ ประกอบด้วยห้องประกอบกลไกโครโนกราฟ ฟังก์ชันสปอร์ตจับเวลา ห้องประกอบกลไกทูร์บิญอง กลไกชับซ้อนที่ทั้งงดงามและสูงค่า และห้องประกอบกลไกมินิท รีพีทเตอร์ หรือระบบตีบอกเวลา แต่ละห้องจะมีช่างนาฬิกาประจำที่ล้วนเป็นระดับมาสเตอร์ทั้งสิ้น

     กลไกที่ผ่านการประกอบแล้วยังต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานช้ำหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านาฬิกาทุกเรือนทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบและงดงามประณีตในมาตรฐานของแบรนด์ อีกทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในมาตรฐานของ Patek Philippe Sealที่เหนือชั้นกว่ามาตรฐานทั่วไป เป็นการรับรองคุณภาพโดยแบรนด์เองทั้งในเชิงคุณภาพความเที่ยงตรงแม่นยำของกลไกการทำงาน และความประณีตในงานขัดแต่งในช่วงบ่าย เรายังมีโอกาสได้เข้าชมส่วนของแผนกRestoration หนึ่งในแผนกสำคัญของแบรนด์ เป็นแผนกที่ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงนาฬิกาวินเทจและนาฬิกาโบราณของ Patek Philippe ซึ่งสำหรับแบรนต์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 180 ปี ย่อมมีนาฬิกาจากอดีตที่นำกลับมาฟื้นคืนชีพไม่น้อย รวมไปถึงนาฬิกาโบราณที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Patek Philippe เองก็จะส่งมาซ่อมบำรุงและซ่อมแชมในแผนกนี้ บางเรือนชิ้นส่วนเสียหายหรือหายไปจนกลไกไม่ทำงาน โรงงานของ Patek Philippe ก็จะสร้างชิ้นส่วนนั้นขึ้นมาใหม่ในแผนกนี้เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือโบราณที่ยังคงใช้งานอยู่ เพราะบางชิ้นส่วนต้องใช้เครื่องมือเก่าแก่ในการผลิตเพื่อให้คงความดั้งเดิมไว้ ไม่เฉพาะเครื่องมือเท่านั้น แม้แต่แบบร่างต่างๆ ของขึ้นส่วนนาฬิกาเก่าแก่ก็ถูกเก็บรักษาไว้ในแผนกนี้ บางชิ้นที่ผลิตขึ้นมาใหม่จากหลักฐานอ้างอิงดั้งเดิม หรือบางขึ้นไม่มีหลักฐานช่างนาฬิกาก็ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการแสวงหาคำตอบเพื่อทำให้นาฬิกากลับมาเดินใหม่ได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมช่างนาฬิการุ่นใหม่ เพื่อสืบทอดความชำนาญและรักษาคุณค่าของนาฬิกา Patek Philippe ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน




ผู้ตั้งกระทู้ ืngongsus (kittisaknawakitkan-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2022-06-25 14:17:20


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2013 All Rights Reserved.