|
เดิน ออกกําลังกาย แต่ละก้าว เพื่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ | |
เวลาที่คิดอะไรไม่ออก เราก็จะเดิน การเดินอาจจะไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้น แต่มันทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ถ้าคิดอะไรไม่ออกเราก็แค่เดินออกไป ความคิดของเรามันมีความ Dynamic ถ้าเราเดิน เคลื่อนไหว มันก็คงช่วยให้ความคิดเราวิ่งเข้าออกสมองได้ดีขึ้น
การเดินดียังไง ทำไมเราถึงต้องเดินเยอะๆ ถ้าคิดไม่ออก ก็ลองเดินดูสิ
ความคิดสร้างสรรค์ กับ การเดินงานวิจัยจาก Stanford University Give your ideas some legs: The positive effect of walking on creative thinking ให้อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลอง นึกถึงประโยชน์ด้านอื่นๆ ของเครื่องมือทั่วไป เช่น มีดเอาไว้ทำอะไรได้อีกบ้าง จากการทดลองเค้าพบว่า คนที่เดินไปคิดไป ไม่ว่าจะเดินข้างนอกหรือเดินบนลู่วิ่ง ก็สามารถคิดได้ดีมากกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ ถึง 60% นอกจากนั้น หลังจากที่เดินเสร็จแล้ว ยังมีการทดสอบอีกครั้ง และผลที่ได้คือ กลุ่มที่เดินมาก่อนก็ยังคิดได้ดีกว่า นั่นหมายถึง การเดินช่วยให้เราคิดได้ดีขึ้น และยังส่งผลต่อไปอีก ถึงแม้เราจะกลับมานั่งก็ตาม เป็นไปได้ว่าการเดินช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและไปเลี้ยงสมองมากขึ้น จากงานวิจัยยังพบว่าการเดิน ไม่ว่าจะเดินที่ไหน ก็ส่งผลดีทำให้เราคิดได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับบรรยากาศการเดินของเรา ว่าจะเป็นแบบไหน จะเดินในสวนหรือเดินในบ้านก็ให้ผลดีได้เช่นกัน หลายครั้งที่เราไม่สามารถวิ่งไปคิดไปได้ โดยเฉพาะวันที่วิ่งเร็วๆ เพราะใจเราจดจ่ออยู่กับการวิ่งมากไป ต้องคอยหลบคนข้างหน้า บ่อยครั้งที่เรากังวลอยู่กับอาการบาดเจ็บ ดังนั้นถ้าวันไหนเราอยากคิด เราก็จะเลือกที่จะเดินให้มากขึ้น ที่เคยเจอกับตัวคือ ถ้าเราคิดตอนเดินมันจะทำให้เรามุ่งมั่นอยู่กับความคิดนั้นได้ง่าย ไม่เผลอไปคิดเรื่องอื่น ทำให้เราคิดจนจบ แต่ถ้าคิดตอนวิ่ง มันมักจะมีความคิดอื่นๆ แทรกเข้ามาเสมอ จะหลุด Focus ได้ง่าย เดินเพื่อสุขภาพมี TED Talk ที่พูดเกี่ยวกับการเดิน Walking as a revolutionary act of self-care เค้ารณรงค์ให้ผู้หญิงเดินให้ได้วันละ 30 นาที เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าเราสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้ได้ และที่สำคัญมันทำได้ง่ายๆ ด้วยการเดิน และนี่ก็เป็นที่มา ทำให้เราอยากเขียน อยากหาข้อมูลประโยชน์ของการเดิน สล็อตแตกง่าย 2400 ปีที่แล้ว Hippocrates ได้บอกไว้ว่า การเดินคือยารักษาโรคที่ดีที่สุด เพื่อพิสูจน์ความจริง นักวิทยาศาสตร์สองคนช่วยกันวิเคราะห์งานวิจัย (Meta-analysis) ที่ตีพิมพ์ในปี 1970-2007 จากงานวิจัยทั้งหมด 4295 ชิ้น เค้าค้นพบว่า มีงานวิจัย 18 ชิ้นที่มีคุณภาพตรงตามที่ต้องการ มีอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 459833 คนที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคหัวใจ งานวิจัยแต่ละชิ้นได้ติดตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเดินของอาสาสมัคร และปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น อายุ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ โดยได้ติดตามเก็บข้อมูลเฉลี่ยคนละ 11.3 ปี และบันทึกผลข้อมูลการเจ็บป่วยเป็นโรคหัวใจ การเข้ารับการรักษาโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ การเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ การวิเคราะห์งานวิจัยในครั้งนั้น ได้ข้อสรุปว่า การเดินช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจมากถึง 31% และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจในช่วงทดลองถึง 32% โดยให้ผลในชายและหญิงเท่าเทียมกัน การเดินที่ให้ผลช่วยป้องกันความเสี่ยงคือ เริ่มจากเดินสัปดาห์ละ 5.5 ไมล์ (8.85 กิโลเมตร) ด้วยความเร็ว 2 ไมล์ต่อชั่วโมง (3.21 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และคนที่เดินเร็วหรือเดินนานกว่านี้ก็ยิ่งได้รับผลที่ดีขึ้นไปอีก งานวิจัยที่เค้าวิเคราะห์ในครั้งนั้น ประกอบไปด้วยอาสาสมัครจาก 7 ประเทศ ใน 3 ทวีป | |
ผู้ตั้งกระทู้ mii (lelemimi888-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-07-19 13:22:18 |
Copyright © 2013 All Rights Reserved. |
Visitors : 227855 |